เมื่ออายุของเราเพิ่มมากขึ้น หลายคนน่าจะเริ่มประสบปัญหาหูตึงหรือความสามารถในการได้ยินเสียงต่าง ๆ ลดลง เพราะเกิดจากประสาทหูที่ค่อย ๆ เสื่อมไปตามอายุ แม้อาการเหล่านี้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย เนื่องจากอาจจะก่อให้เกิดปัญหาด้านการสื่อสารตามมา ซึ่งมีเทคโนโลยีที่เรียกว่าเครื่องช่วยฟัง ที่ตัวเครื่องจะมีไมค์จิ๋วคอยทำหน้าที่ขยายเสียงและดักเสียงต่าง ๆ ช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินสามารถรับเสียงต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง วันนี้เรามาดูวิธีการเลือกเครื่องช่วยฟังกันเลยดีกว่า

1. เลือกจากประเภทเทคโนโลยีของเครื่องช่วยฟัง

  • เครื่องช่วยฟังแบบอนาล็อก คือ เครื่องช่วยที่มีวงจรขยายเสียงแบบธรรมดา ซึ่งจะประกอบไปด้วยไมโครโฟน, ตัวขยายเสียง และลำโพง ทำงานโดยใช้หลักการรับเสียงเข้ามาและทำหน้าที่ขยายเสียงให้ดังขึ้นเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการขจัดเสียงรอบข้างออก ทำให้ได้ยินทั้งเสียงพูดและเสียงรบกวน
  • เครื่องช่วยฟังดิจิทัล คือ เครื่องช่วยฟังที่ใช้วงจรขยายเสียงเป็นแบบไมโครชิพ ทำหน้าที่ขยายเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเครื่องช่วยฟังประเภทนี้จะตัดเสียงรบกวนรอบข้างออกไป ทำให้เสียงมีความนุ่มนวล ใส่แล้วได้ยินเสียงพูดชัดเจนมากขึ้น

2. เลือกจากรูปแบบของเครื่องช่วยฟัง

เครื่องช่วยฟังในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกใช้งาน ซึ่งแต่ละแบบก็มีรูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • เครื่องช่วยฟัง BTE  เป็นเครื่องช่วยฟังที่ออกแบบให้ตัวเครื่องทัดอยู่ด้านหลังใบหู โดยมีสายท่อทำหน้าที่ส่งผ่านเสียงจากลำโพงของตัวเครื่องไปยังจุกยางที่สอดไว้ในรูหู สามารถให้เสียงได้หลายระดับ
  • เครื่องช่วยฟัง ITE เป็นเครื่องช่วยฟังแบบใส่ช่องหูที่มีขนาดใหญ่ ถูกออกแบบให้มีขนาดพอดีกับช่องหู ตัวเครื่องสามารถใส่แบตเตอรี่และฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ครบครัน
  • เครื่องช่วยฟัง CIC เป็นเครื่องช่วยฟังแบบใส่ในช่องหูเหมือน ITE ทว่ามีขนาดเล็กกว่า เน้นการปกปิดเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นขณะใส่
  • เครื่องช่วยฟัง RIC เป็นเครื่องช่วยฟังที่มีลักษณะคล้องหลังหูเหมือน BTE แต่มีขนาดเล็กกะทัดรัดกว่า โดยจะย้ายลำโพงจากในตัวเครื่องออกมาใส่ไว้ในรูหู ทำให้ได้เสียงดังขึ้นและมีน้ำหนักเบา

3. แบตเตอรี่และฟังก์ชันการใช้งานที่จำเป็น

เครื่องช่วยฟังทั่วไปมักจะมีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ย 2 – 3 ปี แต่ถ้าคุณเก็บดูแลรักษาเป็นอย่างดี ก็อาจจะยืดระยะการใช้งานของเครื่องช่วยฟังให้ยาวนานขึ้นได้ และอย่าลืมตรวจสอบฟังก์ชันเครื่องช่วยฟังว่าครอบคลุมการใช้งานหรือไม่ ซึ่งหูฟังที่ดีควรจะมีปุ่มสำหรับลดหรือเร่งเสียงได้หลายระดับ และมีโหมดสำหรับขจัดเสียงรบกวนให้ด้วย เพื่อที่ผู้ฟังจะได้ปรับเสียงให้สอดคล้องกับการสูญเสียการได้ยินได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

การเลือกเครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ ก็จะใช้วิธีเหล่านี้ช่วยเลือกซื้อได้ หากว่าคุณเองยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อเครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุแบบไหนดี สามารถเข้าไปปรึกษาได้ที่ intimex